วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2553

ทฤษฎีแห่งการบริโภค

ทุกคนต้องกินอาหารเช้าให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
เพราะว่าหากร่างกายไม่มีพลังงานจากอาหารเช้าไปใช้ ร่างกายจะดึงสารอาหารจากอวัยวะส่วนอื่นออกมา ( ไม่ใช่ไขมัน ไขมันยังอยู่เหมือนเดิม) ซึ่งภายใต้กระบวนการนี้จะเกิดกรดชนิดหนึ่งออกมาด้วย ซึ่งการที่เราบอกว่าไม่กินข้าวเช้าก็ยังทำงานได้เป็นปกติมาตั้งหลายปีแล้ว นั่นคือร่างกายได้นำเอากรดที่เกิดขึ้นมาใฃ้แทนพลังงานทุกวัน เราจึงทำงานโดยใช้กรดแทนพลังงาน และเมื่อร่างกายต้องผลิตกรดออกมาบ่อย ๆ พออายุมากขึ้นเราก็จะเป็นโรคตามมาหลายอย่าง


โดยปกติแล้วร่างกายของมนุษย์เราผลิตสารพิษอยู่ภายในร่างกายตลอดเวลาเป็น ขยะ เหมือนรถที่เมื่อเติมน้ำมันเข้าไปแล้วก็จะมีควันออกมา ภาษาทางการแพทย์เขาเรียกว่า ขยะ ในร่างกายนี้ว่า สารอนุมูลอิสระ (oxidant) เกิดจากสันดาปพลังงานของร่างกายแล้วคายของเสียอกมา (ไม่ใช่อุจจาระ คนละแบบกันน้าๆๆ) นอกจากนี้ร่างกายจะเร่งผลิต สารอนุมูลอิสระ อีกก็ต่อเมื่อเวลาเราเครียดหรือต้องทำงานหนัก ใช้สมอง ประกอบ กับเจอมลภาวะต่าง ๆ สภาพแวดล้อมที่เป็นพิษนี้มาก การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอตอนกลางคืน เป็นหนทางและเวลาสำคัญที่ร่างกายจะสร้าง สารต่อต้านอนุมูลอิสระ (anti-oxidant) ขึ้น เพื่อกำจัดสารอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นตอนกลางวัน การนอนให้เพียงพอและหลับสนิท จะเป็นประโยชน์ไม่เฉพาะการกำจัดของเสีย แต่ยังฃ่วยให้เม็ดเลือดแดงของคนเราแข็งแรงและสร้าง ฮอร์โมนเพศทำให้ร่างกายสมบูรณ์ มีน้ำมีนวล

หากนำภาพขยายเม็ดเลือดแดงของผู้จัดการชายอายุ 35 คนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนไข้มาให้ดู เปรียบเทียบกัน 2ภาพ ผู้ชายคนนี้เหมือนมนุษย์งานทั่วไป ทำงานหนัก เครียดและขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ ปรากฏว่าจำนวนเม็ดเลือดแดงของเขามีลักษณะเป็นก้อนขยุกขยุย ไม่เป็นรูปทรงกลมเหมือนกลุ่มเม็ดเลือดที่ควรเป็นเกิดความผิดปกติ เนื่องจากสารอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจำนวนมาก ไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงในร่างกาย ซึ่งก็จะนำมาซึ่งโรคร้ายจำนวนมาก อย่างที่คนไทยกำลังเผชิญอยู่

จงจำไว้ว่า

1.ควรรับประทาน อาหารเช้าแบบ ราชา อาหารกลางวันพอประมาณ และอาหารเย็นแบบยาจก (หลีกเลี่ยง ไขมันและของหวาน)



2. ออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อย 30-40 นาที 20 นาทีแรก ร่างกายจะเผาผลาญคาร์โบไฮเดรท 10-20 นาทีต่อมา ร่างกายจึงจะค่อยเผาผลาญไขมัน

3. นอนหลับ (หรือหลับนอน)ให้เพียงพอ

4. รับแสงแดดช่วง 8.00-900 นง ซึ่งมี UV ที่เป็นประโยชน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น